ประสบการณ์สาหร่าย
 เข้าสู่ระบบ - สมัครสมาชิก  

Thai Spirulina - Home

โรค เบาหวาน
โรค ชรา
Aids
 โรค มเร็ง
โรค ไต
โรคกระเพาะ
โรค โลหิตจาง
โรค เกาส์
โรคความดันสุง
โรค ตา
โรค โรคภูมิเเพ้
โรคตับ
ปวดประจำเดือน
การอ่อนเพลีย
โรค ลมพิษ
โรค ตกขาว
โรคหัวใจ
โรคเวียนศรีษะ
โรคมือเท้าชา
โรค หืดหอบ
ขาดสารอาหาร
การนอนดึก
สิว
ไมเเกรน
โรค ไขหวัด
Sex
ตอมลูกหมาก
โรค อ้วน
English
งานวิจัย
ผลการวิจัย
งานวิจัย
เด็ก
นักมังสวิรัติ
นักกิฬา
นักกล้าม
สัตว์เลี้ยง
กลิ้นตัว
โรคพุ่มพวง
วิดีโอประสบการณ์
   

 

ทำไมคนทั่วโลกจึงให้ความสนใจสาหร่าย Spirulina (สไปลูไรน่า)

 

           

               แม้การแพทย์แผนปัจจุบันที่ใช้เคมีบำบัด จะเป็นที่ยอมรับและถูกใช้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราแล้วก็ตาม แต่กระแสธรรมชาติบำบัด การใช้สมุนไพรต่างๆ ตลอดจนถึงการรับประทานอาหารเพื่อการบำบัด ก็กำลังเป็นที่นิยมเมื่อมีการค้นพบสาหร่าย Spirulina นักวิจัยทั่วโลกต่างก็ต้องทึ่งเมื่อพบว่าสาหร่ายชนิดนี้ เป็นพืชที่ประกอบด้วยโปรตีนสูงถึง 65% มีโปรตีนสูงกว่าในเนื้อสัตว์ถึง 3 เท่า และมีกรดอะมิโนที่จำเป็นกับร่างกายถึง 18 ชนิด นอกจากโปรตีนแล้วเขายังเป็นแหล่งของวิตามินที่มีคุณค่า เช่น วิตามินเอ, บี2, บี12, ซี, อี และเอช โดยมีวิตามินบี 12 มากเป็น 250% ของที่มีในตับ, มีเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นวิตามินเอประมาณ 20-25 เท่าของที่มีอยู่ในแครอท และมีเหล็กเป็น 3 เท่าของสเต็กเนื้อ 1 ก้อน และได้มีการวิจัยต่อเนื่องกระทั่ง เมื่อปี พ.ศ.2517 องค์การอนามัยโลก (WHO)ยืนยันว่า “ไม่มีพืชชนิดใด ที่มีความหลากหลาย ให้คุณค่าทางโภชนาการเท่ากับสาหร่ายเกลียวทองนี้” และยังได้ประกาศว่า “สาหร่ายเกลียวทอง เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต”“สาหร่ายสไปรูลิน่าตรา GD1 จึงเป็นสาหร่ายสไปรูลิน่าที่ดีที่สุดในประเทศไทยและเป็นที่ยอมรับของนักวิจัยว่ามีคุณค่าทางอาหารหลากหลาย และสามารถใช้ร่วมกับการรักษาโรคได้อย่างดีเยี่ยม”

GD1 ถูกค้นพบโดยคุณเจียมจิตต์ บุญสม นักวิชาการกรมประมงซึ่งได้รับทุนจาก FAO และ USAID จากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ให้ศึกษาแหล่งน้ำในประเทศไทย จนกระทั่งปี พ.ศ.2526 จึงได้มีการค้นพบสาหร่าย Spirulina พันธุ์ไทยเป็นครั้งแรกที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น จึงได้จดลิขสิทธิ์ในชื่อ “สาหร่ายเกลียวทอง”

การเพาะเลี้ยงสาหร่ายค่อนข้างยากเพราะแหล่งผลิต คือ หัวใจต้องเป็นแหล่งที่น้ำดี แสงแดดดีแล้วก็อากาศดี ถึงจะได้สาหร่ายเกลียวทองที่เป็นอาหารที่สมบูรณ์ ซึ่งบุญสมฟาร์มเป็นหนึ่งในแหล่งเพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทองที่ดีแหล่งหนึ่ง และคุณเจียมจิตต์ บุญสม ได้นำมาวิจัยและทดลองปลูกในปี พ.ศ.2531 ในแหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ และได้คัดสรรพัฒนาสายพันธุ์ “สาหร่ายเกลียวทอง” ซึ่งเป็นสาหร่าย Spirulina พันธุ์ไทยนี้จนได้รับการยอมรับจากต่างประเทศว่า “เป็นสาหร่ายเกลียวทอง สายพันธุ์ที่ดีที่สุด และเป็นอาหารเสริมที่ให้คุณประโยชน์สูงสุด” จึงได้พัฒนาการแปรรูป“สาหร่ายเกลียวทอง” จนกลายเป็นแบบแคปซูล และแบบเม็ด

 

ความรู้เสริมผลิตภัณฑ์

  

 

กรดอะมิโน (amino acids) คือ หน่วยย่อยๆ  หลายๆ ตัวมาต่อกันเป็นโปรตีน กรดอะมิโนแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ

1. กรดอะมิโนที่จะเป็นต่อร่างกาย (Essential amino acid) หมายถึง กรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้จากอาหารที่ทานเข้าไป

2. กรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย  กรดไขมันแกมมาไลเลนิค (GLA) เป็นไขมันไม่อิ่มตัว สามารถช่วยละลายไขมันในเส้นเลือดได้ถึง 170 เท่า ที่มีอยู่ในน้ำมันพืช ซึ่งเป็นการช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ

คลอโรฟิลล์ : กินสาหร่ายแล้วทำไมท้องผูก ทั้งๆ ที่น่าจะขับถ่ายได้ดีขึ้น เนื่องจาก ในสาหร่ายเกลียวทอง GD1 มีคลอโรฟิลล์สูง ซึ่งจะทำให้ลำไส้บีบรัดตัวได้ดีขึ้น และช่วยให้ร่างกายสามารถขับของเสียที่ติดค้างอยู่ในลำไส้ได้ดียิ่งขึ้น สังเกตได้จากผู้ที่เพิ่งเริ่มรับประทาน สาหร่ายเกลียวทอง GD1 จะถ่ายบ่อยครั้งขึ้นในช่วงแรกสำหรับบางท่านที่รับประทานสาหร่ายแล้วมีอาการท้องผูก สาเหตุอาจเกิดจากการดื่มน้ำน้อยจนเกินไป เนื่องจากในสาหร่ายเกลียวทอง GD1 จะทำให้ความเข้มข้นของสารอาหารในกระแสเลือดค่อนข้างสูง ร่างกายจึงดูดซับน้ำจากส่วนต่างๆ ของร่างกายมากขึ้น เพื่อสร้างสมดุลในกระแสเลือด ดังนั้น สำหรับท่านที่เกิดอาการท้องผูก จึงควรดื่มน้ำในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม

ประโยชน์ของคลอโรฟิลล์ที่มีมากในสาหร่ายเกลียวทอง

1. รักษาบาดแผลทั่วไป ทำให้แผลหายเร็ว                                                             

2. เส้นประสาทที่อ่อนล้าไม่ยอมทำงาน ให้กลับทำงานได้

3. การหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจดีขึ้น เสริมธาตุเหล็กให้กับกล้ามเนื้อหัวใจ

4. รักษาโรคโลหิตจางและช่วยเพิ่มปริมาณเลือด

5. เส้นโลหิตฝอยมีการขยายตัวที่ดีขึ้น ความดันเลือดลดลง

6. การขับถ่ายดีขึ้น เพราะช่วยกระตุ้นการบีบรูดของลำไส้

7. รักษาความสะอาดของลำไส้ และขจัดกลิ่นจากลำไส้

8. รักษาเส้นเลือดขอด ทำให้เลือดไหลเวียนบริเวณขาได้ดีขึ้น

9. ระงับปวด เช่นปวดจากบาดแผล ริดสีดวงทวาร และอาการอักเสบของร่างกาย

10. ขจัดกลิ่นเหม็นของแผล และกำจัดกลิ่นตัว

11. ป้องกันมิให้แผลติดเชื้อ และสร้างเซลล์ใหม่

12. เสริมสมรรถภาพตับ รวมทั้งบรรเทาโรคตับอักเสบ

13. รักษาแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร และการอักเสบของทางเดินอาหาร

14. ควบคุมความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร

15. ขับสารพิษ

16. ควบคุมการย่อยอาหาร

17. คลอดบุตรง่าย

18. ปรับระดับน้ำตาลในเลือดในรายที่เป็นเบาหวาน

19. รักษาหวัด, เสริมสุขภาพในรายที่เป็นหอบ หืด

20. รักษาอาการเจ็บคอ ทอนซิลอักเสบ


 

ประโยชน์ของสาหร่าย ไทยสไปรูลิน่า


          ฉบับนี้เราจะมาพูดถึง สาหร่ายตัวหนึ่ง ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลกอยู่ในขณะ นี้ มันมีชื่อว่าสาหร่ายสไปรูลิน่าหรือสาหร่าย เกลียวทอง ที่เรานำมาสกัดเป็นผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้ กับร่างกาย

สไปรูลิน่า คือ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน เจริญเติบโตในน้ำกร่อยและอุ่น ที่มีคุณ สมบัติเป็นด่าง คำว่าสไปรูลิน่ามาจากภาษา ลาติน Helex หรือ Spiral (เกลียว) ซึ่งหมายถึง รูปร่างที่มีลักษณะเส้นหมุนรอบขึ้นไปเหมือน ก้นหอย ในปีค.ศ.1827 ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน สาหร่ายชาวเยอรมัน ชื่อ เดอเบน (Deurben) เป็นผู้ให้ชื่อทางวิทยาศาสตร์แก่สาหร่าย สไปรูลิน่า
สไปรูลิน่า จัดเป็น "พืชนิวเคลียร์" (nuclear plant) ซึ่งหมายถึง การอยู่กึ่งกลาง การปฏิรูปพัฒนาการแบ่งแยกระหว่างพืชกับ สัตว์ เซลล์ของสไปรูลิน่าจะสูงกว่าพืชเพราะ ขอบเซลล์ไม่แข็งเหมือนเซลล์ของพืช และใน นิวเคลียสของเซลล์สไปรูลิน่าก็ไม่ชัดเจน แน่นอนเหมือนของพืช แต่มันก็สามารถปรุง อาหารได้ โดยการสังเคราะห์แสงเช่นเดียว กับการปรุงอาหารของพืชชนิดอื่นๆ
มีคำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาหร่าย สไปรูลิน่าที่ทำการวิจัยทั่วโลกกว่า 4 หมื่นคน ในระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา บอกว่า สาหร่ายสไปรูลิน่านี้มีส่วนประกอบที่พิเศษ คือ มีอะมิโนโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกายสูง กว่าเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่ สามารถผลิตได้เอง แต่ร่างกายต้องการใช้ เป็นประจำทุกวัน มีวิตามินจำพวกเบตา คาโรทีนมากกว่าผักถึง 25 เท่า มีธาตุเหล็ก สูงกว่าตับถึง 28 เท่า และเป็นแหล่งรวมของ วิตามิน บี 12 ทั้งหมดนี้จึงทำให้สาหร่าย สไปรูลิน่าส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของ ระบบประสาท ป้องกันเซลล์สมอง และเสริม สร้างการส่งสัญญาณในระบบสมอง คนที่มี พฤติกรรมไม่ดีในการรับประทานอาหาร ไม่ ชอบทานผักผลไม้ หรือต้องเสียพลังงานกับ การออกกำลังกาย
ปัจจุบันสาหร่ายสไปรูลิน่าเป็นผลิตภัณฑ์ อาหารกว่า 70 ประเทศทั่วโลก อีกทั้งองค์การอนามัยโลกได้แนะนำว่า สาหร่ายสไป รูลิน่า เป็นอาหารที่ปลอดภัยจากสารพิษ และมีคุณค่าทางอาหารไม่มีสารตกค้าง สามารถใช้บริโภคได้อย่างดี มีรายงานผล การวิจัยอย่างมากมายว่าสไปรูลิน่าสามารถ ช่วยบังเกิดผลดีต่อการบำรุงและเสริมการ รักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น
- เป็นอาหารสมอง ช่วยให้ความจำดีขึ้น
- ลดโคเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเบาหวานและความ ดันสูง
- บำรุงผิวพรรณให้สดใส เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์
- ช่วยลดความเครียดและความไม่ สมดุลของร่างกาย
- ลดกรดและช่วยเคลือบแผลใน กระเพาะอาหาร
- ป้องกันเซลล์ตับไม่ให้ถูกทำลายจาก พิษของแอลกอฮอล์
- ป้องกันและรักษาอาการเมาค้าง
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
- ระงับการลุกลามของโรคตา อาทิเช่น ตามัว ต้อหิน ต้อกระจก
- เป็นอาหารเสริมสำหรับนักกีฬา เพื่อ เพิ่มพละกำลังที่ต้องเสียพลังงานกับการออก กำลังกาย
- ช่วยรักษารูปร่างและทรวดทรงให้ สมส่วน เป็นต้น
สไปรูลิน่าจึงเป็นอาหารที่ทรงคุณค่า เหมาะสำหรับทุกคนโดยแท้จริง และใน ปัจจุบันบ้านเรา นอกจากเพาะพันธุ์สาหร่าย สไปรูลิน่ากันได้แล้วยังสามารถสกัดเป็น แคปซูลเพื่อการใช้งานได้รวดเร็วขึ้น ทำให้คน ไทยมีทางเลือกเพื่อสุขภาพกันอีกทางหนึ่ง  

ที่ไหนๆ …ก็มีสาหร่ายเกลียวทอง จะรู้ได้อย่างไรว่าของใครของแท้


 

        ไปไหนมาไหนตอนนี้มีแต่คนพูดถึงสาหร่ายเกลียวทองกันทั่ว  กลายเป็นสินค้ายอดฮิตติดตลาดซื้อง่ายขายใครๆก็อยากซื้ออยากใช้  แฮปปี้ไลฟ์คือผู้จุดประกายทำให้สาหร่ายเกลียวทองเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ มานานคล่อง นับ 10 ปี  จนทำให้เกิดบริษัทหลายต่อหลายบริษัทตามมาทั้งในและต่างประเทศ  เป็นธรรมดาหากสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดย่อมเกิดคำถามต่อว่า..ไหนของจริงของแท้ และดีไม่ดีต่างกันอย่างไร

  1.  สาหร่ายเกลียวทอง  เป็นชื่อลิขสิทธิ์ของบุญสมฟาร์ม จ.เชียงใหม่ โดยมี อ.เจียมจิตต์  บุญสม เป็นผู้ตั้งชื่อและเป็นผูู้มีีสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย  ใครจะนำมาใช้โดยพลการไม่ได้  สังเกตว่าหลายบริษัทเลี่ยงไปใช้คำว่า สไปรูลิน่า (spirulina) แทน นั่นแสดงว่าไม่ใช่สาหร่ายเกลียวทองของแท้  สาหร่ายเกลียวทอง H-Life  ผลิตโดยตรงจากบุญสมฟาร์มจ.เชียง ใหม่ จากต้นตำรับ  จึงเป็นสาหร่ายเกลียวทองของแท้แน่นอน

2.  ทำไมใช้ชื่อว่าสาหร่ายเกลียวทอง เพราะสาหร่ายชนิดนี้เมื่อมองกล้องจุลทรรศน์แล้ว  จะเห็นลักษณะเป็นขดเกลียวคล้ายสปริง และเมื่อมีการวิเคราะห์ คุณค่าสารอาหาร ปรากฏว่า มีคุณค่าทางอาหารสูงมากจึงเปรียบได้ว่ามีค่าดั่งทอง



 3.  สาหร่ายเกลียวทองกับสไปรูลิน่า (spirulina) ต่างกันย่างไร  สไปรูลิน่า (spirulina) มีหลายสายพันธุ์ เช่น สาหร่ายเกลียวทอง H-Life ที่ผลิตจากบุญสมฟาร์มแห่งนี้เป็นสายพันธ์   spirulina platensis ซึ่งเป็นสายพันธุ์ไทยที่ดีที่สุดจากการวิเคราะห์วิจัย (หนังสือความลับสาหร่ายเกลียวทอง หน้า 12-15 ) ซึ่งต้องดูแหล่งผลิตเป็นหลักว่าใช้สาหร่ายพันธุ์อะไร  ถ้าผลิตจากบุญสมฟาร์ม เชียงใหม่ ก็ต้องเรียกว่าเหมือนกัน

 4.  คุณภาพเป็นอย่างไร  ถึงแม้จะเป็นสายพันธุ์เดียวกันก็ให้คุณภาพต่างกันขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต  สภาพแวดล้อม ความสะอาดของน้ำ  อากาศและประสบการณ์ของผู้ผลิต และที่สำคัญจะต้องเน้นความสะอาด เพราะมีโอกาสปนเปื้อนง่าย เวลาอยู่ในแคปซูลยิ่งมองไม่เห็น

 5.  เชื่อได้อย่างไรว่าบุญสมฟาร์มเป็นฟาร์มผลิตสาหร่ายเกลียวทองที่ดีที่สุด  จากประสบการณ์อันยาวนาน เป็นต้นตำรับการผลิตสาหร่ายเกลียวทองเจ้าแรกของประเทศ  ได้ค้นคว้าและขอทุน วิจัยด้วยตนเอง  จนเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ  และได้รับเกียรติประวัติมากมาย  เช่นรางวัลผลิตภัณฑ์ดีเด่นรางวัลนักอุตสาหกรรมไทยดีเด่น  รางวัลนักวิศวกรรมศาสตร์ดีเด่น ฯลฯ  จึงเรียกได้ว่าเป็นฟาร์มของคนไทยที่ได้รับมาตรฐานทันสมัย

6.  ทำไมต้องซื้อสาหร่ายเกลียวทอง H-Life ทั้งๆที่มีสาหร่ายอีกหลายยี่ห้อวางขายอยู่เหมือนกัน

  •  6.1  สาหร่ายเกลียวทอง H-Life ผลิตในประเทศไทยที่ได้คุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ
  •  6.2 ราคาต่อกรัมถูกกว่า
  •  6.3  มีกลิ่นหอมกว่า มีความชื้นต่ำกว่า เก็บรักษาได้นานกว่า
  •   6.4 บริสุทธิ์กว่า เพราไม่ใช้สารเจือปนอื่นๆ
  •  6.5 เงินตราไม่รั่วไหลออกประเทศ  ผลิตโดยคนไทย เพื่อคนไทย      

 7. ถ้าทานสาหร่ายเกลียวทอง H-Life ติดต่อกันเป็นเวลานานจะมีผลข้างเคียงหรือมีพิษต่อร่างกายหรือไม่  ไม่มีพิษหรือผลข้างเคียงด้านลบด้วยประการทั้งปวง เพราะโดยหลักการแล้วการทานอาหารที่อยู่ในชั้นล่างสุดของห่วงโซ่อาหารจะมีโอกาสถูกปนเปื้อน ด้วยสารพิษน้อยที่สุด  ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตอาหารให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกประการหนึ่งสาหร่ายเกลียวทอง H-Life ถูกเลี้ยงอยู่ ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่สะอาดบริสุทธิ์ ผ่านการวิเคราะห์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วว่ามีความปลอดภัย อีกทั้งต่างประเทศก็ได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายมานานหลายสิบปีแล้ว จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยในการใช้

 8. ทำไมต้องรับประทานสาหร่ายเกลียวทอง H-Life  เท่านั้นที่รับประทานอาหารได้ครบปริมาณทั้ง 5 หมู่ในแต่ละวัน  ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไม่ทราบว่าตัวเองขาดสารอาหารอะไรจนกระทั่งสายไป  พวกเขาจะไม่ทราบว่าจะหาอาหารบริสุทธิ์ได้จากที่ไหนอย่างไร  หรือมีทางเลือกอื่นนอกจาก เนื้อ นม ไข่ และสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษนั้นก็ได้ทำลายร่างกายของเราผ่านทางอากาศที่เราหายใจ อาหารที่เรารับประทาน และน้ำที่เราดื่ม  สาหร่ายเกลียวทอง H-Life มีสิ่งที่อาหารชนิดอื่นไม่มีนั่นคือ มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม  ซึ่งถ้าหากท่านสามารถรับประทานสาหร่ายเกลียวทอง H-Life ได้ถึงวันละ 9 กรัม แล้วละก็ ท่านก็จะได้รับคุณค่าทางอาหารมากกว่าอาหารชนิดใดที่จะให้ท่านได้

แสดงกระทู้ล่าสุด  
สาหร่าย  สาหร่าย0
 
อ่านทั้งหมด ...


++form-google-search+

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 27,097 Today: 4 PageView/Month: 32

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...